สัญญาณที่บ่งบอกให้คุณรู้ว่าคุณกำลังจะเป็นโรคสะเก็ดเงิน
โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังชนิดหนึ่งที่เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังอย่างรวดเร็วผิดปกติ ซึ่งเกิดจากการกระตุ้นจากเซลล์เม็ดเลือดขาวและ ทำให้เกิดการอักเสบจนเกิดเป็นผื่นหนาขนาดใหญ่ มีลักษณะสีขาวแห้ง ขุย และแดงที่ผิวหนัง อาการสามารถเกิดได้ทั่วร่างกาย โรคนี้สามารถเกิดได้ในคนทุกเพศทุกวัย
สาเหตุของโรคสะเก็ดเงินยังไม่แน่ชัด แต่คาดการณ์ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการพัฒนาของโรคขึ้นได้อาจมาจากเซลล์เม็ดเลือดขาวในระบบภูมิคุ้มกันเกิดความผิดปกติ หรือมีสารกระตุ้นทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวผิดปกติและปล่อยสารกระตุ้นเพื่อให้เซลล์ผิวหนัง แบ่งตัวผิดปกติ และทำให้เม็ดเลือดขาวต้องทำลายเซลล์ผิวหนังนั้นๆ และอีกปัจจัยอาจมาจากการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ของคนในครอบครัวที่เป็นโรคสะเก็ดเงินและโรคผิวหนังอื่น ๆ
สัญญาณที่บ่งบอกให้คุณรู้ว่าคุณกำลังจะเป็นโรคสะเก็ดเงิน
อาการทางผิวหนัง : มีอาการปวดแสบปวดร้อน ผิวมีสีแดงเป็นรอยขุยสีขาว ผิวมีความแห้ง และอาจแห้งจนแตกเป็นเลือด
✅ เจ็บ คัน มีอาการแสบร้อนตามผิวหนัง
✅ เป็นผื่นแดงนูน นูน เกิดการอักเสบของผิว ผิวแห้งมากจนแตกและมีเลือดออก
✅ หนังศีรษะลอกเป็นขุย
✅ มีผื่นแดง ตกสะเก็ดเป็นขุยสีขาว
✅ มีอาการปวดและบวมตามข้อ
✅ เล็บ พบมีหลุม เล็บร่อน ปลายเล็บหนามีขุยใต้เล็บ หรือ จุดสีน้ำตาลใต้เล็บ
✅ ผื่นอาจเกิดบนรอยแผลถลอกหรือรอยแผลผ่าตัด
สิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคสะเก็ดเงิน
• การใช้ยาที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่ถูกขนาด ซึ่งนอกจากไม่ทำให้อาการดีขึ้นแล้ว จะยิ่งทำให้การกลับมาของโรครุนแรงขึ้น และ การรักษาจะยากขึ้นไปอีก ผู้ป่วยจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงการซื้อยามาทานเองหรือยาที่ไม่ถูกต้อง
• อาการติดเชื้อซ้ำซ้อน ไม่ว่ามาจากการติดเชื้อใดก็ตาม อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้โรคสะเก็ดเงินกำเริบรุนแรงยิ่งขึ้นได้
• การแกะเกา กดทับที่ผิวหนัง ทำให้เกิดรอยถลอก เกิดบาดแผล ซึ่งรอยเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ผื่นของโรคสะเก็ดเงินเกิดมาก
• ภาวะเครียด และสภาพจิตใจของผู้ป่วย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีอิทธิพล ส่วนใหญ่ ผู้ป่วย มักมีความเครียด โกรธง่าย นอนไม่หลับ ยิ่งทำให้เกิดผื่นแดงคันมากขึ้น
• พฤติกรรม ที่เสี่ยงต่อการให้เกิดกระตุ้นอาการของโรค เช่น การดื่มแอลกอฮอลล์ การสูบบุหรี่
• สภาพอากาศ แสงแดด อากาศร้อนอบอ้าว หรืออากาศที่หนาวเย็น สามารถกระตุ้นให้อาการของโรคกำเริบ
คำแนะนำเกี่ยวกับโรคสะเก็ดเงิน
·ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินแต่ละรายอาจมีอาการและความรุนแรงของโรคแตกต่างกันไป โดยอาจมีอาการเพียงชนิดใดชนิดหนึ่งหรือมากกว่า 1 ชนิดขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็มักจะมีอาการเพียงเล็กน้อย สามารถรักษาด้วยการใช้ยาชนิดทาเป็นครั้งคราว และสามารถไปทำงานและดำเนินชีวิตได้อย่างคนปกติทั่วไป
·โรงพยาบาลควรส่งเสริมให้กลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคสะเก็ดเงินได้พบปะพูดคุยหรือแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ในการดูแลตนเอง และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
·โรคสะเก็ดเงินไม่ใช่โรคติดต่อ ผู้ป่วยจึงสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างใกล้ชิดได้ตามปกติ (การสัมผัสผู้ป่วยที่เป็นโรคสะเก็ดเงินหรือผิวหนังส่วนที่เกิดรอยโรคหรือแม้แต่สะเก็ดของผิวหนังส่วนที่เกิดรอยโรคก็ไม่ทำให้เป็นโรคสะเก็ดเงินได้)
·เนื่องจากโรคสะเก็ดเงินไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคหรือไวรัส การรักษาจึงมุ่งไปที่การทำให้ผื่นของโรคดีขึ้นหรือสงบลง พร้อมกับป้องกันไม่ให้กำเริบ โดยการ
1.หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น การติดเชื้อ การได้รับอันตรายของผิวหนัง ยาบางชนิด และความเครียดต่างๆ เป็นต้น
2. หาสาเหตุของการกำเริบของโรค
3. ใช้ยาที่ถูกต้องและเหมาะสมเพื่อไม่ให้อาการกำเริบ หรือสงบลง และเพื่อไม่ให้เกิดภาวะติดเชื้อซ้ำซ้อน ซึ่งเป็นอีก1สาเหตุที่ทำให้การรักษาไม่ได้ผล หรือเห็นผลช้า
·ที่สำคัญการใช้ยาไม่ถูกวิธี หรือใช้ยาไม่ถูกต้อง นอกจากจะไม่ทำให้อาการดีขึ้นแล้ว จะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ การกลับมาของโรครุนแรงยิ่งขึ้นอีก
สอบถามและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา
จันทร์ ถึง ศุกร์ 12.00 น. - 20.00 น.
เสาร์ ถึง อาทิตย์ 12.00 น. - 17.00 น.
#โทร : 088-521-8585
#Line : @1999MSC
#คลินิกผิวหนังมหานคร
ตรวจรักษาโรคผิวหนังทุกชนิด สะเก็ดเงิน เซ็บเดิม ภูมิแพ้ผิวหนังในเด็ก ผู้สูงอายุ เล็บผิดปกติ ผิวหนังอักเสบ รอยแผลเป็น รังแคเรื้อรัง ลมพิษเรื้อรัง คันจากเชื้อรา สิวอักเสบ