◉การรักษาแผลเป็น
เป็นการรักษาที่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยแพทย์จะเลือกวิธีการรักษาให้เหมาะกับลักษณะของแผลเป็น เพื่อให้ผลการรักษาออกมาดี และไม่ให้เกิดแผลเป็นซ้ำขึ้นมาอีก
แผลเป็น อุปสรรคของความสวยงาม สร้างความไม่มั่นใจให้กับคุณผู้หญิง โดยเฉพาะรอยแผลเป็นที่ปูดนูนเห็นเด่นชัดอยู่บนผิว ดูแล้วเหมือนมีปลิงมาเกาะอยู่ ยิ่งถ้าแผลเป็นนั้นอยู่ในตำแหน่งที่คนอื่นมองเห็นชัดเจน เช่น หลัง, ไหล่ ก็ต้องพยายามเลือกหาเสื้อผ้าที่ใส่แล้วช่วยปกปิด บางครั้งอยากแต่งตัวเซ็กซี่เปิดหลังเปิดไหล่ก็ทำไม่ได้ ซึ่งรอยแผลเป็นนอกจากจะทำให้ผิวดูไม่สวยงามแล้ว บางทียังเกิดอาการคันจนสร้างความรำคาญใจให้อีกด้วย
ลักษณะของ แผลเป็น มีหลายลักษณะ เช่น แผลเป็นที่มีสีแตกต่างจากผิวปกติ แผลเป็นนูนธรรมดา หรือแผลเป็นชนิดคีลอยด์ ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มักมีอาการเจ็บและคันร่วมด้วย
*การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการแต่ละบุคคล
◉วิธีในการรักษาแผลเป็น
1.ใช้ยาทา ลดรอยแผลเป็น เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์, ยาที่เป็นซิลิโคนเจล, ยาที่มีวิตามิน E หรือวิตามิน A เป็นส่วนประกอบ
2.ฉีดสารเติมเต็ม ในกรณีแผลเป็นที่เป็นรอยบุ๋ม เพื่อให้แผลตื้นขึ้น
3การสักสีผิว ในแผลเป็นที่มีสีเข้มหรืออ่อนกว่าสีผิวปกติ
4.การใช้เลเซอร์ ลบรอยแผลเป็นตื้นๆ
5.ผลัดผิวด้วย MD เพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่า เพื่อสร้างผิวใหม่มาทดแทน
6.การฉายรังสี ป้องกันไม่ให้แผลเป็นนูนมากขึ้น
◉หลุมสิว
เป็นกระบวนการการรักษาตัวเองของร่างกายอย่างนึงค่ะ คือ หลังจากเกิดบาดแผลหรือการอักเสบ เช่น ตอนเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ จะมีทั้งเชื้อแบคทีเรียและหนองอยู่ภายใน
◉ลักษณะของสิวที่สามารถกลายเป็นหลุมสิวได้มีดังต่อไปนี้ค่ะ
1.สิวหัวช้างเม็ดใหญ่ๆ (Cyst) ที่มีหนองปนเลือดอยู่ภายในหัวสิว
2.สิวอักเสบรุนแรง (Pustule) หรือสิวหัวหนอง
3.สิวที่ติดเชื้อแบคทีเรียจนลุกลามไปทั่วชั้นใต้ผิว (Nodule)
*การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการแต่ละบุคคล
◉ทางป้องกันที่ดีที่สุด คือ การพยายามป้องกันไม่ให้ตัวเองมีสิวอักเสบ หรือถ้ามีสิวลักษณะนี้เกิดขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรีบรักษาอย่างถูกต้อง
1.การรักษาด้วยการทายาเหมาะสำหรับรักษารอยหลุมตื้นๆ ซึ่งมักจะเป็นรอยหลุมระดับทั่วไป หรือแอ่งกระทะ
ยาที่นำมาใช้ทำให้ผิวตื้นขึ้นก็จะมีหลายชนิดด้วยกัน
ข้อดีของการใช้ chemical peeling คือ สามารถช่วยลดรอยแดง รอยดำ ส่วนข้อเสีย คือ ถ้าใช้ความเข้มข้นสูงอาจเกิดการระคายเคือง แสบ แดง คัน หรือด่างขาวได้
2.การรักษาด้วยการรับประทานยา
เป็นยาที่สกัดจากอนุพันธ์ของวิตามินเอ
3.การรักษาด้วยเครื่องมือแพทย์
เป็นการรักษาที่เหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิวขนาดใหญ่มาก จนยาทาและยากินก็ช่วยไม่ไหว
*ลักษณะอาการแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ บางคนเป็นไม่เยอะก็รักษาหายใช้เวลาไม่นาน บางคนอาการรุนแรงอาจจะใช้เวลานานในการรักษา
สอบถามและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง ประสบการณ์กว่า 22 ปี
ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา
จันทร์ ถึง ศุกร์ 12.00 น. - 20.00 น.
เสาร์ ถึง อาทิตย์ 12.00 น. - 17.00 น.
#โทร : 088-521-8585
#Line : 1999MSC
#คลินิกผิวหนังมหานคร